หยุดเถอะ!!! โยม

วิสัยโยมตัดสินกิจกรรมพระไม่ได้ ?

อย่านำวิสัยของโยมมาใช้ตัดสินกิจกรรมของพระ

เพราะพระท่านมีพระธรรมวินัย

ที่พระบรมศาสดาประทานไว้ให้แล้ว

กิจวัตร กิจกรรมโยมกับพระก็แตกต่างกันอย่างมากมาย

ดังนั้นขาวพุทธก็ควรจะเข้าใจตรงกันว่า

กฎหมายของพระคือพระธรรมวินัย 227 ข้อ

ของโยม 5 ข้อเอง

ดังนั้น เราจะไม่เอาความคิดของโยม

ไปยุ่งกับการดำเนินกิจกรรมของพระ

แม้กระทั่งศรัทธา ก็เป็นศรัทธาที่ไม่มีใคร

กล้ารับประกันได้ว่าจะอยู่นิ่ง นาน ยืนยาวได้ตลอดไป

บางคนเป็นศรัทธาหัวเต่า ผลุบ ๆ โผล่ ๆ ไม่แน่ไม่นอน

แม้กระทั่งพระสารีบุตร อัครสาวกเบื้องขวา

ผู้เลิศด้วยปัญญาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า 

ยังไม่กล้ารับรองความศรัทธาของใครได้เลย

อย่างเช่นวันนี้ศรัทธามากก็ทำบุญมาก

พอผ่านไปแค่ไม่กี่ชั่วโมงความศรัทธาคุณอาจจะเปลี่ยนไปก็ได้

กรณีการป้อนข้อกล่าวหาที่ดีเอสไอ

จะถวายให้กับวัดพระธรรมกายว่ารับของโจรก็เช่นกัน

ดีเอสไอเอง คุ้นกับเรื่องความผิดของผู้คนมากมาย

ก็เลยลืมไปว่าคดีคุณศุภชัยยังไม่ได้ตัดสินเลยว่าเขาเป็นโจร

แล้วคุณจะรีบป้อนข้อหา

ว่าวัดพระธรรมกายรับของโจรได้อย่างไร

นี่คือวิสัยโยมนะ ไม่ใช่วิสัยพระ!!!!

ที่จะมุ่งแต่พัฒนาชีวิตจิตใจ

ช่วยเหลือแก้ทุกข์มนุษย์ เป็นหลักชัยหลักใจของผู้คน

ดังนั้นความคิดก็จะออกคนละแนวอยู่แล้ว

แต่อย่างไร พระกับโยมก็ต้องพึ่งพาอาศัยกันอยู่ดี

โยมอาศัยธรรมะจากพระ พระอาศัยปัจจัย 4 จากโยม

ซึ่งเป็นหน้าที่ของพระที่จะเป็นเนื้อนาบุญให้โยมได้บุญ

แม้การรับถวายของพระก็ต้องมีผ้ารับประเคน

(ประเคนคือการแสดงการให้ด้วยความเต็มใจ)

มิใช่ส่งให้กับมือยกเว้นผู้ชายถวายกับมือพระได้เลย

และพระมีการพิจารณาก่อนรับของเสียด้วยซ้ำ

ซึ่งต่างฝ่ายต่างก็เป็นผู้ให้ซึ่งกันและกัน

สังคมไทยก็เกื้อกูลกันไปฉะนี้แล...

เพราะฉะนั้น วอนโยม DSI หยุดเถิด!!!!